จาก โพสต์ทูเดย์
ลำน้ำสาขาทะลักสู่น้ำโขงเพิ่มรวดเร็วอีก 3 เมตรขั้นวิกฤต เริ่มเอ่อท่วมนาข้าวนครพนมแล้ว
วันนี้(30ก.ค.)สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขเสี่ยงวิกฤต หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากลำน้ำสาขาหลายสาย โดยเฉพาะลำน้ำก่ำ ลำน้ำสงคราม และลำน้ำอูน ที่เป็นแม่น้ำสาขาสายหลักรองรับน้ำจากพื้นที่ต่างๆ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ส่งผลให้ระดับแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วันละประมาณเกือบ 1 เมตรปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 10 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตที่ประมาณ 3 เมตรเท่านั้นซึ่ง เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำโขงหนุนเอ่อท่วมสูง หากระดับน้ำโขงถึงจุดวิกฤติจะไม่สามารถรองรับน้ำจากลำน้ำสาขาได้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร รวมถึงหมู่บ้านในพื้นที่ลุ่ม ซึ่งพบว่าในส่วนของพื้นที่หลายอำเภอที่อยู่ติดกับลำน้ำก่ำ ประกอบด้วย อ.นาแก เรณูนคร ธาตุพนม และปลาปลาก เริ่มประสบปัญหาลำน้ำสาขาทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าวแล้วนับ 1,000 ไร่ หากยังมีฝนตกต่อเนื่องระดับน้ำไม่ลด นาข้าวที่ปักดำใหม่จะได้รับความเสียหายแน่นอน ขณะเดียวกันทางจังหวัดนครพนม ได้มีการสั่งการเตรียมพร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องในการสำรวจป้องกันช่วยเหลือ และประกาศเตือนให้ประชาชน เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง
นายเฉลิมชัย จันทร์วงษา หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ ประตูระบายน้ำก่ำตอนล่าง ธรณิศนฤมิต ตามโครงการพระราชดำริ กล่าวว่า ปัจจุบันหลังจากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องหลายวัน ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากในระบบชลประทาน อยู่ที่ประมาณ 60% หรือประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ของปริมาณที่สามารถรองรับกักเก็บได้ทั้งหมด ประมาณ 53 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ระบบประตูระบายน้ำในการควบคุมทั้งหมด 8 จุด ตามลำน้ำก่ำที่รองรับน้ำจาก สกลนคร เป็นระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร จากการติดตามประเมินสถานการณ์ พบว่าที่น่าเป็นห่วงคือ ประตูระบายน้ำสุรัสวดี ที่ควบคุมน้ำหนองหาน จาก จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำกักเก็บเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้มีพื้นที่การเกษตรในเขตลุ่มน้ำก่ำเสี่ยงต่อการเกิดน้ำเอ่อท่วม ประมาณ 40,000 – 50,000 ไร่
อย่างไรก็ตามทางโครงการส่งน้ำและบำรุง รักษาพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ ประตูระบายน้ำก่ำตอนล่าง ธรณิศนฤมิต จะต้องเร่งพร้องน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้ได้มากที่สุด วันละประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 2 จังหวัด คือ สกลนคร และนครพนม รวมกว่า 2 -3 แสนไร่ ซึ่งยังไม่น่าห่วงมากนัก เนื่องจากระดับแม่น้ำโขงยังไม่ถึงจุดวิกฤต และยังสามารถรองรับน้ำได้จำนวนมาก หากไม่มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง แต่ทางชลประทานก็ได้ระดมเจ้าหน้าที่ติดตามประเมินสถานการณ์ต่อเนื่องในช่วง นี้ พร้อมกับประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจ เพื่อหาทางป้องกันน้ำเอ่อท่วมให้มากที่สุด พร้อมประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ จัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงสัตว์เลี้ยงการเกษตร เมื่อเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมสามารถอพยพได้ทันเวลา
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit
