จาก โพสต์ทูเดย์
การตอบโต้ของรัฐบาลถึงผลการขาด ทุนโครงการรับจำนำข้าวว่าไม่ได้สูงถึง 2 แสนล้านบาท ตามที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ ระบุนั้น
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วตัวเลขของรัฐบาลและมูดี้ส์ต่างถูกด้วยกันทั้งสองฝ่าย อนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลตั้งเมื่อเดือน ก.พ. 2555 ได้ทำบัญชีข้าวนาปีที่สิ้นสุดโครงการ 28 ก.พ. 2554 พบว่าจะขาดทุน 32,301 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปีการผลิต 2554/2555 อนุกรรมการฯ ได้ปิดบัญชีข้าวนาปีครั้งที่ 2 เมื่อ ม.ค. 2555 ประเมินว่าขาดทุนเพิ่มขึ้น จาก 32,301 ล้านบาท เป็น 42,900 ล้านบาท เพราะเงินรับจำนำ 3 แสนล้านบาท มีดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น 6,000-7,000 ล้านบาท รวมทั้งราคาข้าวลดลงจากการเสื่อมสภาพ รวมแล้วขาดทุนเพิ่มขึ้น 1 หมื่นกว่าล้านบาท นี่เฉพาะข้าวนาปี ส่วนข้าวนาปรังปี 2554/2555 รับจำนำมา 14.6 ล้านตัน สูงกว่านาปีกว่าเท่าตัว ทำให้ขาดทุน 93,900 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่คลังแถลงเอง เท่ากับคลังยอมรับแล้วว่ามีการขาดทุนจากข้าวนาปีนาปรังปี 2554/2555 รวมแล้ว 136,800 ล้านบาท
ขณะที่มูดี้ส์บอก 2 แสนล้านบาท ถามว่า ใครถูกใครผิด
คำตอบคือถูกทั้งคู่ มันอยู่ตรงสมมติฐานในการคิด
ถามว่าคลังคิดอย่างไร เขาดูต้นทุนกับรายรับ ด้านต้นทุนเขาดูที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายไปในการรับจำนำ คือเงินรับจำนำ 336,000 ล้านบาท บวกด้วยรายจ่ายต่างๆ หักด้วยรายรับจากการขายข้าวจริง ส่วนที่ขายไม่ได้ประมาณ 3 ใน 4 เขาก็คิดเสมือนว่าขายออกในวันปิดบัญชี ใช้ราคาตลาดวันปิดบัญชีคูณเข้าไป กลายเป็นรายรับ และพบว่าขาดทุน 136,800 ล้านบาท
แต่ว่าของมูดี้ส์ เขาใช้คำว่า 2 แสนล้านบาท หมายถึงผลสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้วจริงกับ Potential lost หรือผลสูญเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาเมื่อขายข้าวในที่สุด คำว่าถ้าในที่สุด คือเมื่อไหร่
คือมาจากการคำนวณว่าข้าวที่รับจำนำจะขายได้หมดในอีก 4-6 ปี รวมกับดอกเบี้ยที่คาดว่าปีละ 6,000-1 หมื่นล้านบาท ค่าเสื่อมสภาพ 10% หรือจะขาดทุนเพิ่มอีกปีละ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาทแล้วแต่ราคา ฉะนั้นผลขาดทุนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2.5 หมื่นล้านบาท
ฉะนั้นถ้าขายข้าวหมดใน 4-5 ปี จะขาดทุนถึง 2 แสนล้านบาทตามที่มูดี้ส์บอก นี่ยังไม่นับค่ารักษาข้าวสารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ มูดี้ส์จึงไม่ได้นั่งเทียน เขาทำตามหลักวิชาการ
ทั้งนี้ ปี 2555/2556 ข้าวนาปีพบว่าปิดบัญชีแล้วขาดทุน 8.4 หมื่นล้านบาท ยังเหลือนาปรังอีก ฉะนั้นยอดขาดทุนปี 2555/2556 สูงกว่าปี 2554/2555 แน่นอน เพราะจำนวนข้าวที่รับจำนำมากกว่า
สำหรับกรณีที่มูดี้ส์บอกว่าผลการขาดทุนรับจำนำข้าวยังไม่ส่งผลให้มีการ ปรับลดเครดิตประเทศ เพราะว่าขาดทุน 2 แสนล้านบาทยังรับได้ ไม่ได้ทำให้ยอดหนี้สูงมาก แต่ถ้าปีการผลิต 2555/2556 ขาดทุนอีก 2 แสนล้านบาท มูดี้ส์ก็ยังอาจรับไหว แต่ที่สำคัญคือในอนาคตจะหยุดโครงการรับจำนำไหม ถ้าไม่หยุด ยังทำต่ออีก แล้วขาดทุนปีละ 2 แสนล้านบาท เรตติ้งอาจถูกลดได้
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
