จาก โพสต์ทูเดย์
พายุฤดูร้อนพัดถล่มบุรีรัมย์บ้านเรือนพังกว่า 40 หลัง และฟาร์มไก่เสียหาย 2 หลังสูญกว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ (3 พ.ค.) เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำอย่างหนัก ที่ ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้โรงเรือนเลี้ยงไก่ของ "ฟาร์มจุฬารัตน์" ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มทั้ง 2 หลัง ขณะที่คนงานกว่า 20 คน ที่กำลังก่อสร้างต่างพากันวิ่งหนีตายอลหม่านไปคนละทิศละทางเพื่อเอาตัวรอด แต่กระแสลมและพายุฝนที่พัดกระหน่ำอย่างแรงได้พัดเอาหลังคาสังกะสีปลิวไปใส่ นายเรียน มาเสมอ คนงานก่อสร้างเข้าที่บริเวณลำคอ ขาขวา และนิ้วมือด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ ด.ช.พูนไทย จะยันรัมย์ อายุ 12 ปี ที่มาช่วยพ่อทำงานก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ช่วงปิดเทอม ก็ถูกสังกะสีบาดเข้าที่ข้อมือด้านซ้ายจนเอ็นขาด ทั้งสองถูกนำโรงพยาบาลนางรอง ซึ่งแพทย์ได้เย็บรักษาบาดแผลคนละกว่า 100 เข็ม ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
นางสุภาพ แกรัมย์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ กล่าวว่า โรงเรือนที่ถูกพายุพัดถล่มในครั้งนี้ คาดมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท แต่โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตและโรงเรือนเลี้ยงไก่อีก 4 หลัง ที่มีไก่อยู่ภายในมากกว่า 1 แสนตัวไม่ถูกพายุพัดไม่เช่นนั้นคงได้รับความเสียหายมากกว่านี้
นอกจากนั้น พายุยังได้พัดบ้านเรือนราษฎร และยุ้งข้าวของชาวบ้าน หมู่ 4 และ หมู่ 10 ต.หนองโสน อ.นางรอง พังเสียหายอีก 47 หลัง ในจำนวนนี้พังเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน ขณะที่ทางผวจ.บุรีรัมย์ ตลอดทั้งจังหวัดทหารบก ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมทั้ง อบต.โสน ได้ระดมวัสดุอุปกรณ์ ถุงยังชีพ และกำลังพล เข้าไปมอบช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับ ราษฎรอย่างเร่งด่วนแล้ว
ด้านนายเกรียงศักดิ์ แผ้วพลสง นายก อบต.หนองโสน กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ต.หนองโสนถูกพายุพัดถล่มและถือว่าค่อนข้างหนัก ซึ่งการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น อบต.ได้ใช้งบประมาณสำรองจัดซื้อวัสดุอุปโภค อาทิ หลังคาสังกะสี ตะปู เพื่อให้ทหารใช้ซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหาย ช่วยเหลือชาวบ้านให้มีที่พักอาศัยในเบื้องต้น ส่วนการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการนั้น จะร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านสำรวจรายงานจังหวัดเพื่อพิจารณาดำเนินการมอบเงิน ช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของราชการอย่างเร่งด่วนต่อไป
ขณะที่นายณัฐวัฒน์ อ่อนสุวรรณ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มแล้ว 10 อำเภอ มีบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายกว่า 520 หลังคาเรือน รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 2 ล้านบาท ทั้งยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย ส่วนการให้ความช่วยเหลือจะเร่งสำรวจ รายงานทางจังหวัดเพื่อประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติจากวาตภัย เพื่อมอบเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต