สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ตามรอย ยุทธหัตถี สดุดีมหาราช พระนเรศวร

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรขณะทรงหลั่งน้ำประกาศอิสรภาพ
       พรุ่งนี้แล้วที่ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ของไทยเรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ตอนยุทธหัตถี ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของมหากาพย์นี้ กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
       
       เรื่องราวสำคัญในภาคนี้อยู่ที่ “สงครามยุทธหัตถี” หรือการทำสงครามบนหลังช้างระหว่างสมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชของพม่า ในครั้งนั้นพระมหาอุปราชทรงคุมทัพหลวงเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาทางด่านเจดีย์ สามองค์ สมเด็จพระนเรศวรทรงเป็นจอมทัพยกทัพไปรับข้าศึกที่หนองสาหร่าย และเกิดการปะทะกันขึ้น สมเด็จพระนเรศวรทรงขับพระคชาธารเข้าไปต่อสู้และวิ่งฝ่าเข้าไปในกองทัพข้าศึก โดยที่ทหารในกองทัพไม่สามารถติดตามมาได้ทัน เมื่อตกอยู่ในวงล้อมของทหารพม่าที่มีจำนวนมากกว่า สมเด็จพระนเรศวรจึงทรงเชิญพระมหาอุปราชให้ออกมากระทำยุทธหัตถี
       
       ในครั้งนั้น ทั้งสองพระองค์ขับช้างทรงชนกัน พระมหาอุปราชเสียทีถูกสมเด็จพระนเรศวรฟันด้วยของ้าวจนสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระนเรศวรมีชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ก่อพระเจดีย์ขึ้นองค์หนึ่งตรงที่พระองค์ได้ทรงชนช้างกับพระมหาอุปราชไว้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี (ภาพจาก www.olden-suphanburi.blogspot.com)
       ภาพยนตร์เรื่องนี้จะยิ่งใหญ่หรือดีแค่ไหนคงต้องไปชมกันเองในโรง ภาพยนตร์ แต่ในวันนี้เราจะพาไปชมสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การกระทำ ยุทธหัตถี ซึ่งก็มีข้อถกเถียงของนักประวัติศาสตร์และนักวิชาการอยู่ว่าสถานที่ใดแน่ที่ เป็นที่กระทำยุทธหัตถีและเป็นที่ตั้งของเจดีย์ยุทธหัตถีที่แท้จริง
       
       พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
       
       "พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์" หรือที่รู้จักกันดีในชื่ออนุสรณ์ดอนเจดีย์ ตั้งอยู่ที่ ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองสุพรรณบุรีราว 31 กิโลเมตร เดิมเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่กระทำยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรและ พระมหาอุปราชา ตามข้อสันนิษฐานของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งต่อมาก็ได้สร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ครอบเจดีย์องค์เก่าที่เหลือเพียงฐาน
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
พระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรในพิพิธภัณฑ์ภายในองค์เจดีย์ (ภาพจาก www.photo.suphan.biz)
       อีกทั้งยังได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรขณะทรงพระ คชาธารออกศึกทำยุทธหัตถี ตั้งอยู่ด้านหน้าองค์พระเจดีย์ อีกทั้งภายในองค์เจดีย์ได้มีการสร้างห้องแสดงประวัติศาสตร์ ทั้งภาพแสงสีเสียงและหุ่นจำลองการยกทัพของพม่าและไทย หลายร้อยตัว เป็นสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินและให้ความรู้ได้เป็นอย่างดี
       
       ด้านหลังของพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นที่ตั้งของ "พระตำหนักสมเด็จพระนเรศวร" โดยรอบพระตำหนักจะมีภาพปั้นนูนต่ำ แสดงเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวร มีรูปปั้นของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระสุพรรณกัลยา ซึ่งมักมีผู้นิยมไปสักการบูชาอยู่เป็นนิตย์
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
       “เจดีย์ยุทธหัตถี” จ.กาญจนบุรี
       
       ภายหลังได้มีอีกหนึ่งข้อสันนิษฐานว่าเจดีย์ยุทธหัตถีที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในสงครามของสมเด็จพระนเรศวร ที่แท้แล้วก็คือเจดีย์ที่ตั้งอยู่ใน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เจดีย์องค์นี้ตั้งอยู่ในที่ดอน ล้อมรอบด้วยป่าละเมาะเป็นบริเวณกว้าง องค์เจดีย์เป็นศิลปะแบบอยุธยา เป็นเจดีย์ทรงกลม ก่ออิฐฉาบปูน ส่วนยอดหักพังไปตามกาลเวลา จนปัจจุบันมีความสูงราว 3 เมตร
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
เจดีย์ที่เชื่อว่าเป็นเจดีย์ยุทธหัตถี ที่ จ.กาญจนบุรี
       อ.ประยูร อุลุชาฏะ นักโบราณคดี นักเขียน และศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ได้กล่าวถึงเจดีย์องค์นี้ไว้ว่า “ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเจดีย์และกลุ่มเจดีย์ที่ดอนเจดีย์ คือเจดีย์ยุทธหัตถีที่แท้จริง และเอาเกียรติยศ จากการที่ได้ศึกษาศิลปะมาอย่างจำเจที่สุดเป็นประกัน”
       
       ในพื้นที่บริเวณเจดีย์ยุทธหัตถีและบริเวณใกล้เคียงมีการขุดพบกระดูก ช้าง กระดูกม้า กะโหลกช้าง และกระดูกคนอยู่มากมาย และเครื่องประดับที่ใช้ตกแต่งช้างศึกและม้าศึกอยู่มากมาย อันแสดงว่าสถานที่แห่งนี้จะต้องเคยเป็นที่กระทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่ แต่จะเท็จจริงอย่างไรก็คงอยู่ที่การพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติ ศาสตร์
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
กระดิ่งช้างและสิ่งของต่างๆ มากมายที่พบในบริเวณองค์เจดีย์
       ภายหลังมีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรขณะกำลังประทับ บนหลังช้างศึกอยู่ด้านหน้าองค์เจดีย์ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งของที่ขุดค้นพบ ทั้งกระดูกกรามช้าง เครื่องประดับช้างศึก ม้าศึก และวัตถุโบราณอีกมากมายไว้ให้ชมกันด้วย
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรทรงม้าศึกที่ทุ่งภูเขาทอง
       “เจดีย์ภูเขาทอง” ที่ทุ่งภูเขาทอง อยุธยา
       
       อีกหนึ่งสถานที่ที่มีนักวิชาการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นจุดกระทำยุทธหัตถี นั่นก็คือที่ “ทุ่งภูเขาทอง” ที่พระนครศรีอยุธยา และเจดีย์ภูเขาทองก็คือเจดีย์ยุทธหัตถีที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสงครามในครั้งนั้น
       
       พระเจดีย์ภูเขาทองเป็นเจดีย์ทรงระฆังบนฐานสูง ส่วนฐานของเจดีย์เป็นรูปแบบมอญพม่า รองรับเจดีย์เพิ่มมุมที่มีรูปแบบสืบทอดมาจากเจดีย์ศรีสุริโยทัย ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมโกศโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระเจดีย์ในปี 2288 โดยเปลี่ยนทรงเจดีย์เป็นทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง คงเหลือเพียงฐานประทักษิณที่ยังเป็นรูปแบบเดิม พระเจดีย์ภูเขาทองจึงมีรูปแบบผสมผสานระหว่างศิลปะมอญและศิลปะอยุธยาตอนปลาย
ตามรอย “ยุทธหัตถี” สดุดีมหาราช “พระนเรศวร”
เจดีย์ภูเขาทอง
       ภายหลังมีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรไว้ที่ด้านหน้า องค์เจดีย์ภูเขาทอง แต่พระบรมรูปองค์นี้ต่างจากที่อื่นๆ ตรงที่สร้างให้สมเด็จพระนเรศวรประทับบนหลังม้าศึก โดยผู้สร้างเลือกเหตุการณ์ตอนที่พระองค์ทรงม้าออกมาสังหาร “ลักไวทำมู” ทหารเอกของพระเจ้าหงสาวดี บริเวณฐานพระบรมราชานุสาวรีย์มีรูปนูนต่ำเป็นเรื่องราวพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้ชมกันด้วย

ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ถุงมือกันบาด,อะไหล่ victorinox,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,ร้านกาแฟดี,,thaiworm33



Tags : ตามรอย ยุทธหัตถี สดุดีมหาราช พระนเรศวร

view